ปูกระเบื้องอย่างไร ให้คงทนด้วยงบประมาณจำกัด
งานปูกระเบื้องภายในบ้านหรืออาคารนั้น เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดมากกว่างานก่อ ฉาบ เท ที่ใช้ปูนซีเมนต์ทั่วไป (ปูนดำ) ผสมทราย ในการก่อสร้าง เจ้าของบ้านรวมถึงช่างหรือผู้รับเหมาควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่องานปูกระเบื้องโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้งานที่สวยงาม กระเบื้องไม่หลุดร่อนในภายหลัง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สำหรับงานปูกระเบื้องทั่วไป
แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” ได้แก่
กาวปูกระเบื้อง เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม + ยาแนว เวเบอร์.คัลเลอร์ คลาสสิค
กาวปูกระเบื้อง เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม คู่กับ ยาแนว เวเบอร์.คัลเลอร์ คลาสสิค
คุณสมบัติเด่น : คุณสมบัติเด่น :
– ปูกระเบื้องเซรามิค แกรนิตโต้ – สำหรับร่องกระเบื้องกว้าง 1-6 มม.
60×60 ซม. บนพื้นและผนังซีเมนต์ – ทนทานต่อน้ำยาทำความสะอาด
– เพิ่มระยะเวลาเปิดหน้าปูน ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น – มีให้เลือกถึง 29 สี
– เหมาะกับงานโครงการขนาดกลางที่ปูกระเบื้องทั่วไป
การผสม : การผสม :
– ใส่น้ำสะอาด 5 ลิตร (1 ส่วน) อุณหภูมิของน้ำปกติ – ค่อยๆ เทกาวยาแนว เวเบอร์.คัลเลอร์ คลาสสิค
(ไม่ใช่น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน) ลงในถังน้ำที่เตรียมไว้ ลงในน้ำ ขณะเดียวกันคนให้ทั่วจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
– ค่อยๆใส่กาวซีเมนต์ เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม 20 กก. – สัดส่วน 1 : 3 โดยน้ำหนัก (น้ำ 1 ส่วน ยาแนว 3 ส่วน)
(4 ส่วน) ลงในน้ำ คนให้ทั่วจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน หรือ 1 : 2.5 โดยปริมาตร (น้ำ 1 ส่วน ยาแนว 2.5 ส่วน)
– สัดส่วน น้ำ : เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม 1 : 4 โดยน้ำหนัก – ทิ้งไว้ 3 ถึง 4 นาที ก่อนใช้งานเพื่อให้สารเคมีใน
หรือ น้ำ : เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม 1 : 3 โดยปริมาตร กาวยาแนวทำปฏิกิริยากับน้ำ
– ทิ้งไว้ 3 ถึง 4 นาที ก่อนใช้งานเพื่อให้สารเคมีใน
กาวซีเมนต์ทำปฏิกิริยากับน้ำ
ขั้นตอนการใช้งาน
เริ่มจากการปูกระเบื้องด้วย กาวปูกระเบื้อง เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม
-
ปาดกาวซีเมนต์บางส่วนลงบนพื้นผิวด้วยเกรียงใบโพธิ์หรือเกรียงหวี และใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นทางยาวบนพื้นผิวประมาณ 0.5 ถึง 1 ตร.ม. แล้วเกลี่ยให้ทั่ว
-
สำหรับผนัง : ใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์เป็นแนวนอน (ตามรูป) บนพื้นผิว
-
สำหรับพื้น : ใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นผิว
-
การปูกระเบื้องด้วยเกรียงหวีจะทำให้ปริมาณกาวซีเมนต์แทรกซึมตามผิวกระเบื้องและพื้นผิวได้ดีกว่าการใช้เกรียงใบโพธิ์
-
ปูกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์และกดให้แน่น หรือใช้ค้อนยางเคาะบนกระเบื้องให้ทั่ว เพื่อให้ร่องของกาวซีเมนต์ที่แผ่นกระเบื้องกดทับประสานกันอย่างทั่วถึง เว้นช่องว่างระหว่างกระเบื้องแต่ละแผ่น เพื่อให้เป็นร่องยาแนว (อย่างน้อย 2 มม.)
-
หากต้องการจัดหรือปรับตำแหน่งกระเบื้องเมื่อปูเสร็จด้วยกาวซีเมนต์ เวเบอร์.ไทล์ เซ็ม สามารถปรับตกแต่งกระเบื้องแต่ละแผ่นภายใน 10 นาที ก่อนกาวซีเมนต์จะแห้งสนิท
-
ทิ้งให้กาวซีเมนต์แห้งประมาณ 24 ชม. ก่อนการยาแนว
ตามด้วยกาวยาแนวเนื้อละเอียด ยาแนว เวเบอร์.คัลเลอร์ คลาสสิค
-
สำหรับผนัง : ใช้เกรียงยางหรือแผ่นยาง ตักกาวยาแนวที่ผสมได้ที่แล้ว ปาดกาวยาแนวให้เฉียงกับร่องกระเบื้อง เพื่อให้กาวยาแนวเต็มร่องที่เตรียมไว้
-
สำหรับพื้น : เพื่อความรวดเร็ว ป้ายกาวยาแนวที่ผสมได้ที่แล้ว ลงบนพื้นที่ประมาณ 1 ตร.ม. แล้วใช้เกรียงปาดกาวยาแนวให้เฉียงกับร่องกระเบื้อง เพื่อให้กาวยาแนวเต็มร่องที่เตรียมไว้ –
-
เช็ดกาวยาแนวส่วนที่เกินออกจากแผ่นกระเบื้องด้วยฟองน้ำหมาดๆ ก่อนที่กาวยาแนวจะแห้งสนิท
-
ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 2 ชม. แล้วทำความสะอาดกระเบื้องด้วยผ้าสะอาด
-
เพื่อการยึดเกาะที่ดีของกาวยาแนว ควรทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 24 ชม. ก่อนการใช้งาน
ทำไมต้องใช้ผลิตภัณฑ์ “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” ดีกว่ายี่ห้ออื่นอย่างไร
นอกจากคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลายสถาบันที่มีชื่อเสียง ให้ “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” เป็นอันดับ 1 ด้านกาวปูกระเบื้องและกาวยาแนวของโลก ซึ่งเป็นการการันตีคุณภาพแล้ว “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” ยังมีหลายชนิดและหลากสีให้เลือกใช้ ให้เหมาะสมกับประเภทของกระเบื้อง และพื้นปูกระเบื้อง เจ้าของบ้านรวมถึงช่างหรือผู้รับเหมา จึงไว้วางใจและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับจุดประสงค์ในการใช้งานได้
หากเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ดี ทั้งเรื่องของการโฆษณาสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กับลูกค้า ให้ตรา “ตุ๊กแก” สื่อถึงความเหนียว ติดทนนาน ประสิทธิภาพการยึดเกาะดี และในส่วนของการบรรจุภัณฑ์ หรือ ถุงผลิตภัณฑ์ “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” มีสีสันสดใส การจัดวางรูปภาพตัวหนังสือดูสวยงาม มีการแบ่งประเภทการใช้งานอย่างชัดเจน ในขณะที่ยี่ห้ออื่นใช้สีพื้นๆ เรียบๆ “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” จึงดึงดูดลูกค้ามากกว่า
เคล็ดไม่ลับที่อยากแนะนำ จากผลิตภัณฑ์ “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก”
ยังมีช่างปูกระเบื้องอีกจำนวนมาก ที่ใช้ปูนดำทั่วไป ผสมทราย ในการปูกระเบื้อง ทั้งที่คุณสมบัติของปูนทั่วไป ไม่มีความเหนียว และไม่สามารถยึดเกาะกระเบื้องกับพื้นผิวได้เลย เวลาผ่านไปก็จะเจอปัญหากระเบื้องแตกหลุดร่อน ประกอบกับการปูกระเบื้องผิดวิธี เป็นสาเหตุที่ทำให้กระเบื้องหลุดร่อน อายุการใช้งานสั้น ดังนั้น ควรเลือกใช้กาวปูกระเบื้องที่มีคุณภาพและปูกระเบื้องอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ
กาวปูกระเบื้องมีหลากหลายยี่ห้อ หลายชนิด ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยคุณภาพก็ต่างกัน ดังนั้นหากเจ้าของบ้านต้องการปูกระเบื้อง ให้เลือกที่จะซื้อวัสดุให้ช่างหรือผู้รับเหมาจะดีที่สุด และเราขอจ่ายแต่ค่าแรงให้ช่างหรือผู้รับเหมา ซึ่งจะทำให้เราสามารถกำหนดวัสดุและควบคุมคุณภาพของงานปูกระเบื้อง ที่จะออกมาได้คุณภาพและลดปัญหากระเบื้องหลุดร่อนได้ เพื่อให้งานปูกระเบื้องสวยงาม และมีอายุการใช้งานยาวนาน
ปัจจัยที่มีผลทำให้กระเบื้องหลุดร่อน
-
การปูกระเบื้องโดยใช้ปูนซีเมนต์ผสมทราย ซึ่งไม่สามารถยึดเกาะกระเบื้องกับพื้นผิวได้นั้น นำมาป้ายใต้แผ่นหลังกระเบื้องเป็นจุดๆ (ดังภาพ) จะทำให้มีช่องว่างระหว่างแผ่นกระเบื้องกับพื้นผิว เป็นสาเหตุทำให้กระเบื้องแตกหักง่าย หรือกรณีมีน้ำรั่วซึม น้ำก็สามารถไหลไปตามช่องว่าง ทำให้เกิดปัญหากับพื้นผิวบริเวณอื่นๆ ได้
-
กรณีใช้ปูนกาวปูกระเบื้องแต่ปูผิดวิธี เช่น การป้ายกาวซีเมนต์ใต้แผ่นกระเบื้องเป็นจุดๆ แบบ ซาลาเปา (ดังภาพ) หรือการใช้เกรียงใบโพธิ์ปาดกาวไปที่หลังกระเบื้องอย่างเดียว จะทำให้ประสิทธิภาพของปูนกาวที่ติดกับพื้นผิวลดลง อันเป็นสาเหตุให้กระเบื้องเกิดการหลุดร่อนได้ภายหลัง
-
การที่ปูนกาวปูกระเบื้องมีประสิทธิภาพการยึดเกาะดี คือ ควรใช้เกรียงหวีหรือเกรียงฟันฉลามปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นผิว เกลี่ยให้ทั่วเพื่อรักษาระดับความหนาของกาวซีเมนต์ให้สม่ำเสมอ ในบางกรณี เช่น กระเบื้องขนาดใหญ่หรือหลังกระเบื้องมีร่อง จำเป็นต้องปาดปูนกาวปูกระเบื้องใต้แผ่นกระเบื้องอีกชั้นหนึ่งด้วย
-
ไม่ควรนำกระเบื้องไปแช่น้ำก่อนปูกระเบื้องด้วยปูนกาวปูกระเบื้อง “เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” เพราะจะทำให้สัดส่วนระหว่างน้ำกับปูนกาวที่ผู้ผลิตออกแบบมาแล้วเกิดความคลาดเคลื่อนไป ซึ่งอาจส่งผลให้กระเบื้องไหลกรณีปูที่ผนัง และประสิทธิภาพการยึดเกาะของปูนกาวลดลง
-
การปูกระเบื้องด้วยปูนกาว จำเป็นต้องเลือกประเภทของปูนกาว ให้ถูกต้องกับการใช้งาน เช่น ถ้าปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ควรใช้ปูนกาวเกรดพิเศษที่มีส่วนผสมของสารโพลีเมอร์สำหรับกระเบื้องแผ่นใหญ่โดยเฉพาะ
การเตรียมพื้นผิวสำหรับปูกระเบื้อง
-
สำหรับพื้นผิวใหม่ : พื้นผิวต้องเรียบ แข็ง ได้ระดับ สะอาด แห้ง และการดูดซึมน้ำอยู่ในระดับปกติ
-
ถ้าพื้นผิวเป็นผนังปูนฉาบหรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มคอนกรีตตามมาตรฐาน (คือ 7 วัน ต่อความหนา 1 ซม.) ก่อนปูกระเบื้อง
-
พื้นผิวที่ไม่เรียบหรือชำรุดเกิน 5 มม. ซ่อมแซมด้วยมอร์ต้าหรือปูนกาว
-
จากนั้นฉาบตกแต่งพื้นผิวให้เรียบ
-
ทิ้งไว้ 48 ชม. ก่อนปูกระเบื้อง
-
กำจัดเศษวัสดุ เช่น ผงปูน ไขมัน ฝุ่น คราบมันต่างๆ ที่ติดอยู่ตามพื้นผิวออกให้หมด
-
ถ้าพื้นผิวมีรูพรุนมาก (การซึมซับน้ำสูง) หรือในบริเวณที่อากาศแห้งหรือลมแรง จำเป็นต้องทำให้พื้นผิวนั้นเปียกชุ่มและซึมซับน้ำให้อิ่มตัวก่อนปูกระเบื้อง
-
พื้นผิวต้องแห้ง ระดับความชื้นอย่างมากที่สุด 3%
การปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์
-
เลือกประเภทปูนกาวปูกระเบื้อง ตามชนิดของกระเบื้องและลักษณะการใช้งาน
-
ใช้ปูนกาว ปูกระเบื้องทุกครั้ง และต้องเลือกประเภทปูนกาว ให้เหมาะสมกับชนิดกระเบื้องและการใช้งาน
-
ใช้เกรียงหวีในการปูกระเบื้อง หลีกเลี่ยงการปูด้วยวิธีแบบซาลาเปา เพราะกระเบื้องจะบิ่น แตกง่าย
-
กรณีปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ ควรปรับระดับพื้นผิวก่อน จากนั้นจึงปูกระเบื้องด้วยปูนกาว
-
กรณีกระเบื้องขนาดใหญ่กว่า 25X25 ซม. หรือหลังกระเบื้องที่แผ่นหลังไม่เรียบมีร่องลึก ควรปาดกาวซีเมนต์ 2 ชั้น คือ ที่พื้นผิวและปาดเบาๆ ที่หลังกระเบื้อง
-
หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ 24 ชม. ก่อนยาแนว
-
ยาแนวด้วยกาวยาแนวที่เหมาะสมกับประเภทลักษณะการใช้งาน
มาดูคลิปวีดีโออธิบายขั้นตอนการปูกระเบื้องอย่างถูกวิธี ที่นี่เลย !
หมดปัญหากระเบื้องหลุดร่อนอีกต่อไป อย่าลืมบอกช่างใช้
“เวเบอร์ ตราตุ๊กแก”
แอพพลิเคชั่น : weberth